คลังความรู้
Cryptocurrency คืออะไร
Crypto Currency คือ เงินดิจิทัลที่มีการเข้ารหัสสมการ และมีจุดเด่น คือ ไม่มีตัวตน ไม่สามารถจับต้องได้ และไม่มีมูลค่าที่แน่ชัด ตายตัว คริปโทเคอร์เรนซี ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ทำธุรกรรมบนระบบออนไลน์ โดยมีเทคโนโลยี Blockchain เป็นระบบที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งแก้ไข ข้อด้อยของระบบศูนย์กลาง (Centralized) โดยทำให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็ว ปลอดภัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และแก้ไขข้อมูลได้ยาก คริปโทเคอร์เรนซีที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Stellar และอื่นๆ อีกว่า 1,000 เหรียญ
Bitcoin คืออะไร
Bitcoin เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ถูกสร้างขึ้นเป็นเหรียญแรก และเคยมีมูลค่ากว่า 20,000 USD (ข้อมูลจาก Coin Market cap ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2560) ปัจจุบันในหลายประเทศให้ความสนใจ และนำ Bitcoin มาใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและ บริการต่างๆ ได้เหมือน สกุลเงินทั่วไป (Fiat)
เนื่องจาก Bitcoin ถูกสร้างขึ้นจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ประกอบกับไม่ได้กำหนดมูลค่าที่แน่นอนจึงมีมูลค่าผันผวนตลอดเวลาตามความต้องการของตลาด
วิธีการได้ครอบครอง Bitcoin
การซื้อขายและแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี (Exchange) โดยการใช้เงิน Fiat – Crypto หรือ Crypto – Crypto
การขุด หรือ การใช้ทรัพยากรทางคอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยแก้โจทย์สมการ และหากทำได้รวดเร็วที่สุดก็จะได้รับ Bitcoin เป็นรางวัล
การเล่นเกมส์ และ รับแจกฟรี (Airdrop)
Bitcoin เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ถูกสร้างขึ้นเป็นเหรียญแรก และเคยมีมูลค่ากว่า 20,000 USD (ข้อมูลจาก Coin Market cap ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2560) ปัจจุบันในหลายประเทศให้ความสนใจ และนำ Bitcoin มาใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและ บริการต่างๆ ได้เหมือน สกุลเงินทั่วไป (Fiat)
เนื่องจาก Bitcoin ถูกสร้างขึ้นจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ประกอบกับไม่ได้กำหนดมูลค่าที่แน่นอนจึงมีมูลค่าผันผวนตลอดเวลาตามความต้องการของตลาด
วิธีการได้ครอบครอง Bitcoin
การซื้อขายและแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี (Exchange) โดยการใช้เงิน Fiat – Crypto หรือ Crypto – Crypto
การขุด หรือ การใช้ทรัพยากรทางคอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยแก้โจทย์สมการ และหากทำได้รวดเร็วที่สุดก็จะได้รับ Bitcoin เป็นรางวัล
การเล่นเกมส์ และ รับแจกฟรี (Airdrop)
Ethereum คืออะไร
Ethereum เป็นคริปโทเคอร์เรนซีเหรียญหนึ่งที่พัฒนาขึ้นโดยชาวรัสเซียชื่อ Vitalik Buterin เมื่อปี 2013 ในวัยไม่ถึง 20 ปี Vitalik เคยเป็นหนึ่งในทีมนักพัฒนา Bitcoin มาก่อนแต่เนื่องจากเขาพบข้อบกพร่องและข้อจำกัดของ Bitcoin จึงผันตัวมาริเริ่มสร้าง Ethereum ขึ้นซึ่ง Ethereum มีศักยภาพที่ทัดเทียมกับ Bitcoin แต่เพิ่มส่วนสำคัญเรียกว่า Smart Contracts ที่อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถเขียนโปรแกรม ลงในข้อมูลของ Ethereum เพื่อให้ทำงานต่างๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดได้โดยอัตโนมัติ คุณสมบัตินี้ทำให้สามารถสร้างแอพพลิเคชันบนเครือข่าย Ethereum ได้อีกชั้นหนึ่งนับเป็นการประยุกต์การใช้งานได้อย่างหลากหลายต่างจาก Bitcoin ที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงิน เพียงอย่างเดียว Ethereum มี Software แบบ Open Source ที่ดูแลโดย Ethereum Foundation ซึ่งเป็นหน่วยงานไม่หวังผลกำไรในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Ethereum เป็นคริปโทเคอร์เรนซีเหรียญหนึ่งที่พัฒนาขึ้นโดยชาวรัสเซียชื่อ Vitalik Buterin เมื่อปี 2013 ในวัยไม่ถึง 20 ปี Vitalik เคยเป็นหนึ่งในทีมนักพัฒนา Bitcoin มาก่อนแต่เนื่องจากเขาพบข้อบกพร่องและข้อจำกัดของ Bitcoin จึงผันตัวมาริเริ่มสร้าง Ethereum ขึ้นซึ่ง Ethereum มีศักยภาพที่ทัดเทียมกับ Bitcoin แต่เพิ่มส่วนสำคัญเรียกว่า Smart Contracts ที่อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถเขียนโปรแกรม ลงในข้อมูลของ Ethereum เพื่อให้ทำงานต่างๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดได้โดยอัตโนมัติ คุณสมบัตินี้ทำให้สามารถสร้างแอพพลิเคชันบนเครือข่าย Ethereum ได้อีกชั้นหนึ่งนับเป็นการประยุกต์การใช้งานได้อย่างหลากหลายต่างจาก Bitcoin ที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงิน เพียงอย่างเดียว Ethereum มี Software แบบ Open Source ที่ดูแลโดย Ethereum Foundation ซึ่งเป็นหน่วยงานไม่หวังผลกำไรในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Ripple คืออะไร
Ripple เป็นอีกหนึ่งคริปโทเคอร์เรนซีที่สร้างขึ้นโดยไรอัน ฟุกเกอร์นักพัฒนาเว็บไซต์จากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และ บริษัท Ripple ที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโกนำมาเผยแพร่เมื่อปี 2012 โดยเน้นการให้บริการทางด้าน payment gateway ที่นำเทคโนโลยี Blockchain มาแก้ปัญหาการโอนเงินระหว่างประเทศและการโอนข้ามสกุลเงินที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักก็คือ ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ
Ripple ต่างจากคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ ตรงที่เครือข่ายของ Ripple เป็นเครือข่ายปิด (Private Network) ซึ่งอนุญาตให้ธนาคารและ สมาชิกใช้งานได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับความสนใจจากธนาคารหลายแห่งทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้บริษัท Digital Ventures ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์เข้าไปร่วมลงทุนเมื่อปี 2016
บริษัท Ripple สนับสนุนให้ธนาคารใช้เหรียญ Ripple (XRP) ในการโอนเงินแทนเงิน Fiat เนื่องจากระบบการประมวลผลของ Ripple (XRP) สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 transaction ต่อวินาที หรือเทียบเท่ากับ VISA จึงทำให้การโอนเงินรวดเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมน้อยลง ระบบของ Ripple จะต่างจาก Bitcoin ตรงที่ผู้ยืนยัน transaction ไม่ใช่บุคคลทั่วไปแต่จะเป็นสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้ เป็นผู้ตรวจสอบ transaction แทน
Ripple เป็นอีกหนึ่งคริปโทเคอร์เรนซีที่สร้างขึ้นโดยไรอัน ฟุกเกอร์นักพัฒนาเว็บไซต์จากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และ บริษัท Ripple ที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโกนำมาเผยแพร่เมื่อปี 2012 โดยเน้นการให้บริการทางด้าน payment gateway ที่นำเทคโนโลยี Blockchain มาแก้ปัญหาการโอนเงินระหว่างประเทศและการโอนข้ามสกุลเงินที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักก็คือ ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ
Ripple ต่างจากคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ ตรงที่เครือข่ายของ Ripple เป็นเครือข่ายปิด (Private Network) ซึ่งอนุญาตให้ธนาคารและ สมาชิกใช้งานได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับความสนใจจากธนาคารหลายแห่งทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้บริษัท Digital Ventures ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์เข้าไปร่วมลงทุนเมื่อปี 2016
บริษัท Ripple สนับสนุนให้ธนาคารใช้เหรียญ Ripple (XRP) ในการโอนเงินแทนเงิน Fiat เนื่องจากระบบการประมวลผลของ Ripple (XRP) สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 transaction ต่อวินาที หรือเทียบเท่ากับ VISA จึงทำให้การโอนเงินรวดเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมน้อยลง ระบบของ Ripple จะต่างจาก Bitcoin ตรงที่ผู้ยืนยัน transaction ไม่ใช่บุคคลทั่วไปแต่จะเป็นสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้ เป็นผู้ตรวจสอบ transaction แทน
Stellar คืออะไร
Stellar เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่พัฒนาขึ้นจาก Ripple โดยนาย Jed McCaleb ผู้ก่อตั้งศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งใหญ่ที่สุด ในโลกชื่อว่า Mt Gox (Mount GOX) โดย Forbes นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกาจัดให้เขาอยู่ในอันดับที่ 40 ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ดังนั้นการที่ Jed McCaleb เปิดตัวเหรียญ Stellar เมื่อเดือนกรกฎาคม 2014 ที่ผ่านมาจึงเป็นเรื่องน่าสนใจของวงการคริปโทเคอร์เรนซีเป็นอย่างมาก เดิมชื่อย่อของ Stellar คือ STR แต่เปลี่ยนเป็น XLM ตั้งแต่ปี 2015 จนกระทั่งปัจจุบัน
Stellar เป็น Open Source Platform ที่ออกแบบมาสำหรับระบบการเงินโดยเฉพาะโดยเน้นให้บริการแก่บุคคลทั่วไปซึ่งแตกต่าง จาก Ripple ที่ให้บริการในกลุ่มองค์กรรายใหญ่และสถาบันการเงินในประเทศต่างๆ นอกจากนี้ Stellar ยังนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามา ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความรวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน โดยสามารถโอนเงินได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การโอนเงินแบบปกติ (Payment) หรือการโอนเงินให้ผู้รับด้วยสกุลเงินเดียวกัน และการโอนเงินต่างสกุล (Path Payment) ที่สามารถโอนเงินจากสกุลหนึ่งไปให้ผู้รับเป็นอีกสกุลหนึ่งได้โดยมีค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่าการโอนผ่านสถาบันการเงิน เช่น การโอนเงินบาทไปให้บัญชีปลายทาง ที่ต้องการเงินเยนระบบจะแลกเปลี่ยนจากเงินบาทเป็นเงินเยนให้อัตโนมัติโดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำที่สุดในขณะนั้น
Stellar เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่พัฒนาขึ้นจาก Ripple โดยนาย Jed McCaleb ผู้ก่อตั้งศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งใหญ่ที่สุด ในโลกชื่อว่า Mt Gox (Mount GOX) โดย Forbes นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกาจัดให้เขาอยู่ในอันดับที่ 40 ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ดังนั้นการที่ Jed McCaleb เปิดตัวเหรียญ Stellar เมื่อเดือนกรกฎาคม 2014 ที่ผ่านมาจึงเป็นเรื่องน่าสนใจของวงการคริปโทเคอร์เรนซีเป็นอย่างมาก เดิมชื่อย่อของ Stellar คือ STR แต่เปลี่ยนเป็น XLM ตั้งแต่ปี 2015 จนกระทั่งปัจจุบัน
Stellar เป็น Open Source Platform ที่ออกแบบมาสำหรับระบบการเงินโดยเฉพาะโดยเน้นให้บริการแก่บุคคลทั่วไปซึ่งแตกต่าง จาก Ripple ที่ให้บริการในกลุ่มองค์กรรายใหญ่และสถาบันการเงินในประเทศต่างๆ นอกจากนี้ Stellar ยังนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามา ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความรวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน โดยสามารถโอนเงินได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การโอนเงินแบบปกติ (Payment) หรือการโอนเงินให้ผู้รับด้วยสกุลเงินเดียวกัน และการโอนเงินต่างสกุล (Path Payment) ที่สามารถโอนเงินจากสกุลหนึ่งไปให้ผู้รับเป็นอีกสกุลหนึ่งได้โดยมีค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่าการโอนผ่านสถาบันการเงิน เช่น การโอนเงินบาทไปให้บัญชีปลายทาง ที่ต้องการเงินเยนระบบจะแลกเปลี่ยนจากเงินบาทเป็นเงินเยนให้อัตโนมัติโดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำที่สุดในขณะนั้น
OmiseGo คืออะไร
OmiseGo ก่อตั้งโดยชาวญี่ปุ่นชื่อ Jun Hasegawa และเพื่อนชาวไทย ดอน อิศราดรหะริณสุต ขึ้นในประเทศไทยในปี 2013 โดยธุรกิจแรกเป็นด้าน e-commerce และต่อมาเล็งเห็นว่าการเป็น Payment Gateway จะสามารถต่อยอดทางด้านธุรกิจนี้ได้จึงเปลี่ยนทิศทางธุรกิจมาด้านนี้อย่างจริงจัง ซึ่งมีนักลงทุนรายแรกคือ ต๊อบ เถ้าแก่น้อย
Omise วางแผนที่จะสร้าง Blockchain ของตนเองชื่อ The OmiseGo network และเหรียญ OMG จะใช้เพื่อเป็น Proof-of-stake ของเครือข่าย OmiseGo แต่ในปัจจุบันอยู่ในแพลตฟอร์มของ ERC-20 ผู้ใช้ทุกคนจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หลายอย่าง เช่น การจ่ายเงิน, การโอนเงิน, การจ่ายเงินเดือน, การพาณิชย์แบบ B2B, การเงินของ Supply-chain, การจัดการสินทรัพย์, การแลกเปลี่ยน หรือการบริการต่างๆ ในทางกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์และราคาไม่สูงจนเกินไป
OmiseGo ก่อตั้งโดยชาวญี่ปุ่นชื่อ Jun Hasegawa และเพื่อนชาวไทย ดอน อิศราดรหะริณสุต ขึ้นในประเทศไทยในปี 2013 โดยธุรกิจแรกเป็นด้าน e-commerce และต่อมาเล็งเห็นว่าการเป็น Payment Gateway จะสามารถต่อยอดทางด้านธุรกิจนี้ได้จึงเปลี่ยนทิศทางธุรกิจมาด้านนี้อย่างจริงจัง ซึ่งมีนักลงทุนรายแรกคือ ต๊อบ เถ้าแก่น้อย
Omise วางแผนที่จะสร้าง Blockchain ของตนเองชื่อ The OmiseGo network และเหรียญ OMG จะใช้เพื่อเป็น Proof-of-stake ของเครือข่าย OmiseGo แต่ในปัจจุบันอยู่ในแพลตฟอร์มของ ERC-20 ผู้ใช้ทุกคนจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หลายอย่าง เช่น การจ่ายเงิน, การโอนเงิน, การจ่ายเงินเดือน, การพาณิชย์แบบ B2B, การเงินของ Supply-chain, การจัดการสินทรัพย์, การแลกเปลี่ยน หรือการบริการต่างๆ ในทางกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์และราคาไม่สูงจนเกินไป
Chainlink คืออะไร
LINK เป็นเงินคริปโตใน ChainLink ซึ่งเป็นบริการฐานข้อมูล Oracle แบบกระจายศูนย์เจ้าแรกที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างข้อมูลธุรกิจกับ Blockchain โดยผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลจาก Application Program Interfaces (APIs) บน Web หรือ Application อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายฐานข้อมูลของ Oracle เพื่อนำเข้ามาใส่ใน Blockchain เพื่อนำไปสร้าง Smart Contract
ใช้เป็นสัญญาซื้อขายหรือข้อตกลงทางธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก Blockchain ได้ คือ สามารถทำงานอย่างได้อย่างอัตโนมัติและปลอดภัยไม่สามารถปลอมแปลงสัญญาหรือเบี้ยวสัญญาได้ และยังสามารถชำระเงินด้วย Cryptocurrency สกุลที่ต้องการได้
LINK เป็นเงินคริปโตใน ChainLink ซึ่งเป็นบริการฐานข้อมูล Oracle แบบกระจายศูนย์เจ้าแรกที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างข้อมูลธุรกิจกับ Blockchain โดยผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลจาก Application Program Interfaces (APIs) บน Web หรือ Application อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายฐานข้อมูลของ Oracle เพื่อนำเข้ามาใส่ใน Blockchain เพื่อนำไปสร้าง Smart Contract
ใช้เป็นสัญญาซื้อขายหรือข้อตกลงทางธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก Blockchain ได้ คือ สามารถทำงานอย่างได้อย่างอัตโนมัติและปลอดภัยไม่สามารถปลอมแปลงสัญญาหรือเบี้ยวสัญญาได้ และยังสามารถชำระเงินด้วย Cryptocurrency สกุลที่ต้องการได้
Tether คืออะไร
ether ทํางานอยู่บน เทคโนโลยีที่เรียกว่า Omni Layer (เดิมชื่อ “Mastercoin”) เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สและแพลตฟอร์มสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์เป้าหมายหลักคือการจัดหาแพลตฟอร์มเพื่อสร้างโทเค็นที่สามารถเป็นสัญลักษณ์ของสินทรัพย์และสกุลเงิน โดยใช้ Bitcoin blockchainUSDT หรือ United States Dollar Tether เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ “ผูก” กับดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัท Tether ระบุว่า 1 USDT มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ Tether ถูกจัดกลุ่มเป็นคริปโตเคอเรนซี่ประเภทใหม่ เรียกว่า "Stablecoins" ซึ่ง Stablecoins ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดช่องว่างระหว่างสกุลเงิน fiat และ สกุลเงินดิจิทัล โดยการนำเสนอราคาที่คงที่ และเทียบเท่ากับเหรียญหรือโทเค็น
ether ทํางานอยู่บน เทคโนโลยีที่เรียกว่า Omni Layer (เดิมชื่อ “Mastercoin”) เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สและแพลตฟอร์มสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์เป้าหมายหลักคือการจัดหาแพลตฟอร์มเพื่อสร้างโทเค็นที่สามารถเป็นสัญลักษณ์ของสินทรัพย์และสกุลเงิน โดยใช้ Bitcoin blockchainUSDT หรือ United States Dollar Tether เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ “ผูก” กับดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัท Tether ระบุว่า 1 USDT มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ Tether ถูกจัดกลุ่มเป็นคริปโตเคอเรนซี่ประเภทใหม่ เรียกว่า "Stablecoins" ซึ่ง Stablecoins ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดช่องว่างระหว่างสกุลเงิน fiat และ สกุลเงินดิจิทัล โดยการนำเสนอราคาที่คงที่ และเทียบเท่ากับเหรียญหรือโทเค็น
USD Coin คืออะไร
USD Coin เปิดตัวเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2018 เป็นโปรเจ็คร่วมกันระหว่าง Circle และ Coinbase เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “Programmable Dollar” หรือเงินดอลลาร์ที่สามารถถูกตั้งโปรแกรมได้เพื่อให้เหล่าผู้ประกอบการสามารถวางแผนสร้างธุรกิจของตนบนเครือข่ายของ USDC
USD Coin เป็นเหรียญ Stablecoin ที่ถูกผูกมูลค่าเข้ากับ U.S. Dollar ทำให้มูลค่าของเหรียญจะคงที่ที่ 1 USDC = 1 US Dollar เสมอ และเมื่อมูลค่าของ USDC ผูกเข้ากับเงิน U.S. Dollar การที่จะสามารถออกเหรียญ USDC ได้จำเป็นต้องมีการฝากเงินดอลลาร์ในมูลค่าเท่ากันเข้าไปในบัญชีพิเศษผ่านทางธนาคารหรือส ถาบันทางการเงินที่รองรับหากต้องการถอนเงินดอลลาร์ออกมาก็สามารถทำได้โดยการโอนเหรียญ USDC ให้กับทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่รองรับเช่นกัน กระบวนทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยี Smart Contract ของ Ethereum และเนื่องจากตัว USDC ก็เป็นเหรียญประเภท ERC-20 ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับทุกแอพพลิเคชั่นที่รองรับ ERC-20 ได้อย่างราบรื่น
USD Coin เปิดตัวเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2018 เป็นโปรเจ็คร่วมกันระหว่าง Circle และ Coinbase เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “Programmable Dollar” หรือเงินดอลลาร์ที่สามารถถูกตั้งโปรแกรมได้เพื่อให้เหล่าผู้ประกอบการสามารถวางแผนสร้างธุรกิจของตนบนเครือข่ายของ USDC
USD Coin เป็นเหรียญ Stablecoin ที่ถูกผูกมูลค่าเข้ากับ U.S. Dollar ทำให้มูลค่าของเหรียญจะคงที่ที่ 1 USDC = 1 US Dollar เสมอ และเมื่อมูลค่าของ USDC ผูกเข้ากับเงิน U.S. Dollar การที่จะสามารถออกเหรียญ USDC ได้จำเป็นต้องมีการฝากเงินดอลลาร์ในมูลค่าเท่ากันเข้าไปในบัญชีพิเศษผ่านทางธนาคารหรือส ถาบันทางการเงินที่รองรับหากต้องการถอนเงินดอลลาร์ออกมาก็สามารถทำได้โดยการโอนเหรียญ USDC ให้กับทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่รองรับเช่นกัน กระบวนทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยี Smart Contract ของ Ethereum และเนื่องจากตัว USDC ก็เป็นเหรียญประเภท ERC-20 ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับทุกแอพพลิเคชั่นที่รองรับ ERC-20 ได้อย่างราบรื่น