Information


2FA หรือ 2-Factor Authentication คือ กระบวนการตรวจสอบผู้ใช้งาน 2 ขั้นตอนต่อเนื่องกัน ก่อนที่ระบบจะ อนุญาตให้เข้าถึงบริการที่กำหนดได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล และการทำธุรกรรมต่างๆ การใช้งาน 2FA จะต้องอาศัย 2 ปัจจัยในการตรวจสอบตัวตนเสมอ คือ สิ่งที่ท่านรู้ (ในที่นี่ คือ รหัส) และสิ่งที่ท่านมี (ในที่นี้ คือ โทรศัพท์มือถือ) เมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นจะแสดงรหัสเลข 6 หลัก ให้ท่านนำไปกรอกบนหน้าระบบ โดยรหัส จะหมดอายุภายใน 30 วินาที หากท่านกรอกไม่ทันเวลา รหัสนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ และแอพพลิเคชั่นจะสร้างรหัสใหม่ ให้ท่านทันที
ชืดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่น Google Authenticator (แอพพลิเคชั่นรองรับทั้ง ios และ android)
สแกน QR code โดยใช้แอพพลิเคชั่น Google Authenticator
หากท่านไม่สามารถแสกน QR code ได้ ให้กรอกรหัสความปลอดภัย (Security Key) ใส่ในแอพพลิเคชั่นแทน
ท่านจำเป็นต้องเก็บรหัสความปลอดภัย (Security Key) นี้ไว้ เพื่อใช้สำหรับกู้ข้อมูลของแอพพลิเคชั่น Google Authenticator ในกรณีที่โทรศัพท์มือถือหรือรหัส 2FA สูญหาย
กรอกรหัสเลข 6 หลักที่ปรากฎอยู่ในแอพพลิเคชั่น ลงไปที่ช่อง 2FA code บนหน้าระบบ Exchange
เมื่อเปิดใช้งาน 2FA แล้ว ท่านจำเป็นต้องใช้รหัส 2FA ทุกครั้งที่เข้าสู่ระบบ หรือ ทำธุรกรรมต่างๆ
ทาง Exchange แนะนำให้เปิดใช้งาน 2FA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่บัญชีผู้ใช้งานและการทำธุรกรรมต่างๆ ของท่าน
หากในขั้นตอนการเปิดบัญชีผู้ใช้งานกับทาง Exchange ท่านได้เปิดการใช้งาน 2FA ด้วย ทางระบบจะกำหนดให้ท่าน กรอกรหัส 2FA ทุกครั้งที่ต้องการล็อกอินเข้าระบบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้งานของท่านเป็นสำคัญ
ทาง Exchange ไม่แนะนำให้ท่านปิดการใช้งานระบบการยืนยันตัวตน 2FA เพื่อความปลอดภัยของบัญชี ผู้ใช้งาน และการทำธุรกรรมต่างๆ ของท่าน
หากท่านต้องการปิดการใช้งานระบบการยืนยันตัวตน 2FA ชั่วคราว สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
ไปที่เมนูตั้งค่า
เลือกเมนูความปลอดภัย
กรอกรหัส 2FA
กดปิดระบบยืนยันตัวตน 2FA
หมายเหตุ: ท่านจำเป็นที่ต้องเปิดระบบการยืนยันตัวตน 2FA ใหม่อีกครั้ง เมื่อต้องการทำธุรกรรมต่างๆ กับทาง Exchange
หากโทรศัพท์มือถือของท่านชำรุดหรือสูญหาย โดยไม่ได้บันทึก QR Code 2FA ไว้ กรุณาติดต่อที่ [email protected] ทาง Exchange จะขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตน ปลดรหัส 2FA และสร้าง QR Code 2FA ใหม่ให้ท่านเปิดใช้งาน บนโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง
ทาง Exchange ไม่มีนโยบายสอบถามรหัสความปลอดภัย (Security Key) ของระบบการยืนยันตัวตน 2FA ของท่าน และเนื่องจากเป็นรหัสความปลอดภัยส่วนตัว ดังนั้นท่านต้องไม่เปิดเผยรหัสนี้ให้ทางระบบหรือผู้อื่นทราบโดยเด็ดขาด
ทาง Exchange มีระบบการจัดเก็บข้อมูลด้วยระบบมาตรฐานการเข้ารหัสลับขั้นสูง มีการใช้ระบบ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ มากกว่าหนึ่งลายเซ็น มีระบบเซิฟเวอร์สำรองข้อมูลมากกว่าหนึ่งเซิฟเวอร์ และใช้ระบบการยืนยันตัวตน ทั้งนี้เพื่อเก็บรักษา ข้อมูลและการทำธุรกรรมต่างๆ ของท่านให้ปลอดภัยขั้นสูงสุด
* ทาง Exchange รองรับการซื้อ-ขายเหรียญ (Crypto Currency) เฉพาะ Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum, Ethereum Classic, Litecoin, Ripple และ Stellar โดยเปิดให้แลกเปลี่ยนระหว่าง “เหรียญกับเหรียญ” และ “เหรียญกับเงินบาท” เท่านั้น (รอยืนยันกับระบบอีกครั้ง)

ล็อกอินเข้าระบบ ไปที่เมนูฝากเงิน
กรอกจำนวนเงินที่ต้องการฝาก จากนั้นระบบจะคำนวณยอดเงินฝากที่ท่านจะต้องนำฝากให้อัตโนมัติ เช่น หากท่านต้องการฝากเงินจำนวน 5,000 บาท ระบบอาจจะคำนวณยอดเงินให้ท่านเป็น 5,011 บาท
ให้ท่านดำเนินการฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของทาง Exchange ที่แจ้งไว้หน้าระบบ โดยฝากเงินให้ตรงตาม จำนวนที่ระบบแจ้ง และอัพโหลดสลิปการฝากเงินเข้าระบบ เพื่อความรวดเร็วในการอนุมัติ
ทาง Exchange จำกัดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝาก คือ 100 บาท โดยท่านสามารถฝากเงินได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
เมื่อท่านต้องการฝากเงินบาท กรุณาอัพโหลดหลักฐานการฝากเงินเข้าระบบภายใน 24 ชั่วโมง หากคำขอหมดอายุ ท่านสามารถส่งคำขอฝากเงินได้อีกครั้งที่เมนู “ฝาก/ถอนเงิน”
กรณีนี้ทางระบบจะส่งอีเมล์พร้อมแนบลิงค์ให้ท่าน เพื่อให้ท่านสร้างคำขอฝากเงินใหม่ที่มีจำนวนเงินตรงตามจำนวนที่ท่าน ฝากเข้ามาในระบบ พร้อมกับอัพโหลดหลักฐานเข้าระบบอีกครั้ง จึงจะเป็นการฝากเงินที่ถูกต้องสมบูรณ์
ทาง Exchange จะดำเนินการอนุมัติรายการฝากเงินภายใน 12 ชั่วโมง หลังจากได้รับเอกสารการฝากเงินถูกต้องเรียบร้อย
กรณีรายการฝากเงินบาทของท่าน อยู่ระหว่างรออนุมัติหรือถูกปฏิเสธนานกว่า 12 ชั่วโมง กรุณาติดต่อทาง Exchange โดยระบุหัวข้อปัญหา “รายการฝากเงินบาทยังคงรออนุมัติหรือถูกปฏิเสธ" ระบบจะตรวจสอบและดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ท่านสามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีผู้ใช้งานได้ที่เมนู “ยอดเงินคงเหลือ (Balance)”
ล็อคอินเข้าบัญชีผู้ใช้งานของท่าน
ไปที่เมนูกระเป๋าเงินดิจิทัล
คลิกที่ปุ่ม "ถอน" ตรงบรรทัดของเงินบาท (THB)
เลือกบัญชีธนาคารที่ต้องการถอนเงินบาทออกไปสู่บัญชีนั้น
ระบุยอดเงินที่ต้องการถอน
กรอกรหัส 2FA
คลิกปุ่มถอนเงิน
ตรวจสอบอีเมล์ของท่าน และกดยืนยันการถอนเงินผ่านลิงค์ที่ทางระบบส่งให้ทางอีเมล์
หมายเหตุ: ระยะเวลาดำเนินการจะขึ้นอยู่กับธนาคารบัญชีปลายทางของท่าน และเวลาที่ทำธุรกรรม (ลิงค์ค่าธรรมเนียม)
ทาง Exchange จำกัดจำนวนขั้นต่ำในการถอนเงินบาท คือ 50 บาท และจำนวนเงินต้องมากกว่าค่าธรรมเนียมการถอน ที่ระบุไว้ โดยท่านสามารถถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ท่านสามารถถอนเงินบาทได้สูงสุด 2,000,000 บาทต่อวัน
ธนาคารบัญชีปลายทาง
ระยะเวลาดำเนินการ
วันจันทร์ -ศุกร์
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ธนาคารเดียวกัน
ภายใน 24 ชม.
ภายใน 48 ชม.
ต่างธนาคาร
ภายใน 48 ชม.
ธนาคารบัญชีปลายทาง
ธนาคารเดียวกัน
ระยะเวลาดำเนินการ
วันจันทร์ -ศุกร์
ภายใน 24 ชม.
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ภายใน 48 ชม.

ธนาคารบัญชีปลายทาง
ต่างธนาคาร
ระยะเวลาดำเนินการ
วันจันทร์ -ศุกร์
ภายใน 48 ชม.
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ภายใน 48 ชม.
เมื่อท่านต้องการถอนเงินบาท กรุณากดยืนยันการถอนผ่านลิงค์ของระบบที่ท่านได้รับทางอีเมล์ภายใน 24 ชั่วโมง หากลิงค์หมดอายุท่านสามารถส่งคำขอการถอนได้อีกครั้งที่เมนู “ฝาก/ถอนเงิน” และเมนู “เงินดิจิทัล”
ปริมาณการฝาก-ถอนต่อวันจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการฝาก-ถอนขั้นต่ำ-สูงสุดที่ทาง Exchange กำหนด และระดับการ เป็นสมาชิกของท่าน ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบและเพิ่มระดับการเป็นสมาชิกได้ที่เมนู “ข้อมูลบัญชีลูกค้า”
ท่านสามารถขอเพิ่มวงเงินและสมัครเป็นสมาชิกวีไอพี โดยส่งอีเมล์มาที่ Exchange ระบุหัวข้อ “การยื่นขอเพิ่มวงเงินและ สมัครเป็นสมาชิกวีไอพี” พร้อมแนบเอกสารประกอบดังนี้
รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน
สลิปเงินเดือนปัจจุบัน
ใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิต หรือ ใบแจ้งค่าบริการ (ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์) เดือนล่าสุดทาง Exchange จะดำเนินการอนุมัติภายใน 48 ชั่วโมง และแจ้งให้ท่านทราบทางอีเมล์
กรณีการยื่นขอเพิ่มวงเงินและสมัครเป็นสมาชิกวีไอพีของท่านอยู่ระหว่างการดำเนินการนานเกิน 24 ชั่วโมง กรุณาติดต่อทาง Exchange โดยระบุหัวข้อปัญหา “การยื่นขอเพิ่มวงเงินและสมัครเป็นสมาชิกวีไอพีของท่านอยู่ระหว่างการดำเนินการหรือถูกปฏิเสธ” ระบบจะตรวจสอบและดำเนินการโดยเร็วที่สุด
รหัสธุรกรรม (Transaction ID: TXID) เป็นรหัสที่บล็อกเชนสร้างขึ้น (Generate) เพื่อยืนยันและอ้างอิงการฝาก-โอนเหรียญ แต่ละธุรกรรม
ท่านสามารถตรวจสอบรหัสธุรกรรม (TXID) ได้ที่เมนู “รายการธุรกรรม (Transaction)” ในบัญชีของท่าน
เมื่อท่านต้องการถอนเหรียญจาก Wallet อื่น และฝากเข้า Wallet ของทาง Exchange กรุณาตรวจสอบชนิดเหรียญและที่อยู่ Wallet ของท่านให้ถูกต้อง เนื่องจากทาง Exchange ไม่สามารถตรวจสอบหรือคืนเหรียญให้ท่านได้ในกรณีที่ท่านเลือก ชนิดเหรียญ หรือ ใส่ที่อยู่ Wallet ผิด หากพบปัญหาดังกล่าวทาง Exchange แนะนำให้ท่านติดต่อกับผู้ให้บริการ Wallet ต้นทางของท่าน เพื่อตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
เมื่อท่านกดยืนยันการถอนเหรียญผ่านลิงค์ของระบบที่ได้รับทางอีเมล์ ระบบจะดำเนินการและบันทึกคำสั่งถอนลงใน บล็อกเชนทันที ซึ่งไม่สามารถแก้ไขหรือยกเลิกได้ ดังนั้นกรุณาตรวจสอบที่อยู่ Wallet ปลายทางของท่านให้ถูกต้อง ก่อนทำรายการ หากพบปัญหาการถอนเหรียญโดยใส่ที่อยู่ของ Wallet ปลายทางผิด ทาง Exchange แนะนำให้ท่าน ติดต่อกับผู้ให้บริการ Wallet ปลายทางของท่าน เพื่อตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
ท่านสามารถตรวจสอบได้จากลิงค์ www.cx.co.th/xxxxx ในหน้าเมนู “รายการธุรกรรม (Transaction)”หรือ ท่านสามารถนำรหัสธุรกรรม TXID ของท่านไปค้นหาได้ที่
Bitcoin : https://www.btc.com/
Bitcoin Cash : https://blockchair.com/bitcoin-cash/blocks
Ethereum : https://www.etherscan.io/
Ethereum Classic : http://etcchain.com/
Litecoin : https://live.blockcypher.com/ltc/
ระยะเวลาในการฝาก-ถอนเหรียญ จะขึ้นอยู่กับระบบบล็อกเชนของแต่ละชนิดของเหรียญ โดยท่านสามารถตรวจสอบ สถานะของรายการธุรกรรมที่สร้างขึ้นได้ที่เมนู “รายการธุรกรรม (Transaction)” ในบัญชีของท่าน
ธุรกรรมการฝาก-ถอนเหรียญที่ได้รับการยืนยันและได้รับรหัสธุรกรรม (TXID) เรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถยกเลิกได้ และจะ ถูกบันทึกในระบบบล็อกเชนของเหรียญนั้นทันที
หากท่านประสบปัญหาในการถอนเหรียญ กรุณาตรวจสอบรหัสธุรกรรม (TXID) ที่เมนู “รายการธุรกรรม (Transaction)” โดยปกติแล้ว TXID จะถูกสร้างขึ้นภายใน 30 ถึง 60 นาที เพื่อแสดงให้เห็นว่าทาง Exchange ได้เริ่มถ่ายโอนข้อมูลใน blockchain ตามรายการที่ท่านสร้างขึ้น เมื่อท่านพบ TXID ของธุรกรรมที่ต้องการแล้วให้กดที่ "ตรวจสอบ" เพื่อตรวจสอบ สถานะและการยืนยันในบล็อค
หาก blockchain แสดงข้อมูลว่าการทำธุรกรรมยังไม่ได้รับการยืนยันที่เพียงพอ ท่านต้องรอให้ขั้นตอนการยืนยันนี้ เสร็จสิ้นก่อน
หาก blockchain แสดงข้อมูลว่าการทำธุรกรรมได้รับการยืนยันครบตามจำนวนแล้ว หมายความว่าทาง Exchange ได้โอนเหรียญออกจาก Wallet ของท่านเรียบร้อยแล้ว หากท่านยังไม่ได้รับเหรียญ ทาง Exchange แนะนำให้ติดต่อ ทาง Exchange หรือผู้ให้บริการ Wallet ปลายทางของท่าน เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
กรณีท่านไม่ได้รับรหัสธุรกรรม (TXID) นานเกินกว่า 24 ชั่วโมง กรุณาติดต่อทาง Exchange เพื่อดำเนินการตรวจสอบให้โดย เร็วที่สุด
ในการฝาก-ถอนเหรียญแต่ละชนิดต้องได้รับการตรวจสอบและยืนยันจาก block chain ของแต่ละเหรียญ ท่านจึงไม่ได้ รับเหรียญทันทีที่ทำธุรกรรม โดยท่านจะได้รับเหรียญล่าช้าหรือรวดเร็วขึ้นอยู่กับระยะเวลาการดำเนินการของ block chain
การตั้งแบบลิมิตออเดอร์ คือ การเปิดคำสั่งซื้อ-ขายแบบตั้งล่วงหน้า โดยท่านสามารถกำหนดราคาที่ต้องการซื้อ-ขายเองได้ เมื่อใดที่ใน Exchange มีราคาซื้อ-ขายที่ตรงกับราคาที่ท่านตั้งไว้ ระบบจะดำเนินการซื้อ-ขายตามที่ท่านระบุไว้ รายการนั้นจะเสร็จสมบูรณ์
การตั้งแบบมาร์เก็ตออเดอร์ คือ การเปิดคำสั่งซื้อ-ขายโดยทันที ซึ่งระบบจะดำเนินการตามราคาซื้อ-ขายใน Exchange ขณะนั้น รายการจะเสร็จสมบูรณ์
รหัส PIN เป็นรหัสความปลอดภัยส่วนตัวประจำบัญชีผู้ใช้งานของท่าน มี 4 หลัก ท่านจำเป็นต้องกรอกรหัส PIN เพื่อ ยืนยันตัวตนในการทำซื้อ-ขายเหรียญ โดยท่านต้องเก็บรักษารหัสไว้เป็นความลับไม่เปิดเผยให้ผู้อื่นทราบโดยเด็ดขาด
Order Book หรือ รายการคำสั่งซื้อ-ขายที่เปิดไว้ คือ รายการซื้อ-ขายเหรียญที่ท่านเปิดคำสั่งไว้ แต่รายการนั้นๆ ยังซื้อ-ขายไม่เสร็จสมบูรณ์ ท่านสามารถยกเลิกรายการเหล่านี้ได้
ล็อกอินเข้าสู่บัญชีผู้ใช้งานของท่าน
ไปที่เมนู "เทรด" เลือกซื้อหรือขาย
เลือกประเภทเหรียญที่ต้องการซื้อ-ขาย
เลือกประเภทคำสั่งซื้อ-ขายระหว่าง "ลิมิตออเดอร์" หรือ "มาร์เก็ตออเดอร์"
กรณีลิมิตออเดอร์
ใส่จำนวนเงินบาท (สำหรับการซื้อ) หรือเหรียญ (สำหรับการขาย)
ใส่ราคาต่อเหรียญ
กรอกรหัส PIN
กดปุ่ม "เทรด" เพื่อซื้อ-ขาย (กรอกรหัส 2FA สำหรับคนที่เปิดการใช้งาน)
กรณีมาร์เก็ตออเดอร์
ใส่จำนวนเงินบาท (สำหรับการซื้อ) หรือเหรียญ (สำหรับการขาย)
กรอกรหัส PIN
กดปุ่ม "เทรด" เพื่อซื้อ-ขาย (กรอกรหัส 2FA สำหรับคนที่เปิดการใช้งาน)
ทาง Exchange ไม่กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อ-ขาย โดยท่านสามารถซื้อ-ขายได้ในวงเงินที่ไม่เกินจำนวนเงินบาทที่มีอยู่ ในบัญชีผู้ใช้งานของท่าน
รายการสั่งซื้อ-ขายที่สำเร็จแล้วจะบันทึกอยู่ในเมนู “ประวัติการซื้อขาย” ซึ่งท่านไม่สามารถแก้ไขหรือยกเลิกได้
ท่านสามารถยกเลิกคำสั่งซื้อ-ขาย ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ในเมนู “รายการที่เปิดไว้” เท่านั้น